เข้าเมืองเชียงใหม่แบบงงๆ มาเดินที่ ถนนคนเดินประตูท่าแพ
หลังจาก Part ที่ 2 Workshop CaCao Bean to Bar มาทำช็อคโกแลตแท่งกับบราวนี่ กินกันเถอะ จบคลาส ประมาณบ่าย 2 ก็ได้ขอติดรถตู้ พี่สาวใจดี ที่มาเรียนคลาสนี้เหมือนกัน
ถึงเชียงใหม่ ประตูท่าแพ
มาถึงเชียงใหม่ ประมาณ 5 โมงเย็นวันอาทิตย์ เลย ขอลงที่ ประตูท่าแพ ละกัน เพราะรู้ว่าวันนี้จะมีถนนคนเดินของเมืองเชียง ซึ่งจะอยู่บริเวณประตูเมืองท่าแพต่อไปยังถนนราชดำเนิน เป็นถนนคนเดินที่ดังและใหญ่ที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่
ถนนคนเดินประตู่ท่าแพจะมีทุกวันอาทิตย์ เวลาประมาณ 18.00-22.00 น. อย่ามาผิดวันกันหละ
#lotustheadventure
หาที่พักใกล้ถนนคนเดินประตูท่าแพ ในเชียงใหม่
อันดับแรกเราก็ต้องหาที่พักก่อนละ ในระแวกประตูท่าแพนั้นแหละ ซึ่งหาข้อมูลไปมา ก็ได้ ที่พักเป็น โฮสเทล ใกล้ๆ ถนน คนเดิน เดินไปได้ ชื่อว่า Thapae Happy House(ท่าแพ แฮปปี้เฮ้าส์) Check-in จ่ายค่าที่พักไป 600 บาท ห้องพักดีมาก สะอาด แอร์เย็นสบาย ที่นอนก็นุ่ม ตกแต่งได้สวยงาม โยนกระเป๋าเข้าห้องพัก นอนพักเอาแรงสักแปป หรือใครอยากจะเลือกที่อื่นใกล้ๆ ลองเข้า เว็ปจองที่พักออนไลน์ผ่านระบบได้เลยครับ
ออกไปเดิน ถนนคนเดินประตูท่าแพ
ย้ำอีกที! ถนนคนเดินประตูท่าแพ มีวันไหน ถนนคนเดินประตูท่าแพ จะมีทุกวันอาทิตย์ นะ!!! ถึงเวลา ออกไปเดินถนนคนเดินประมาณ ทุ่มนึง มีร้านค้า หาอะไรกินไปเรื่อย มีของกินเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นของพื้นเมือง ไส้อั่ว ปั้นสด น้ำอัดลมจรวด ข้าวซอย ยำ ของปิ้ง น้ำผลไม้ น้ำปั่น และยังมีร้านอาหารระหว่างทาง เยอะแยะมากมากให้เลือกกิน
และที่อร่อยที่สุดที่ผมได้กินที่นี่ คือหมี่ยำ จัดไป 2 ถ้วย น่าจะมีที่นี่ที่เดียวของเชียงใหม่นะ
ในถนนคนเดินประตูท่าแพก็จะมีของพื้นเมือง ขายเยอะแยะมากมาย เหมาะกับการเลือกซื้อของฝาก ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า เสื้อผ้าแบบชาวเหนือ ของ Handmade ต่างๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ ของชาวเชียงใหม่ เส้นทางเดินของถนนคนเดินท่าแพ ยาวเป็นเส้นตรง มี 4 แยก ให้เลี้ยว อยู่ 2 จุดด้วยกัน ร้านค้าต่างๆ ก็ขาย อยู่ กลางถนน 2 ฝั่ง และ ข้างๆทางอีกอย่างละฝั่ง เรียกได้ว่ามีร้านให้เลือกซื้อของ เยอะมาก ของที่อยากได้ก็เต็มไปหมด ติดปัญหา จะขนกลับยังไง พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางต่ออีก
ระหว่างทางเดินของถนนคนเดินประตูท่าแพ เดินไปเรื่องก็จะมีวัดอยู่ข้างทางๆ ที่สวยมาก ทำจากไม้ ศิลปะแบบชาวเหนือ ได้เข้าไปกราบไหว้อีกด้วย นอกจากจะได้กิน ได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับแล้ว ยังได้บุญกลับไปอีกด้วย
เดินจนเมื่อย ก็แวะนวดเท้าสักหน่อย ที่นี่ร้านนวดระหว่างทางก็เยอะ เช่นกัน มีเกือบทุกแยกเลย ค่านวดก็ไม่แพง ครึ่งชม 80 บาท แก้เมื่อย เพลินๆไป ถือว่าได้หยุดนั่งพัก เพื่อ เดินต่อ เริ่มหิวอีกรอบ ก็หาของกินอีกดีกว่า ในโซนของกินนั้น จะแบ่ง ออกไป ในด้านใน ของวัดบ้าง หรือ ด้านในของสถานที่ๆแต่ละจุดจัดไว้ เพื่อเป็นระเบียบ มีโต๊ะ เก้าอี้ ให้นั่งทานได้เลย หรือจะซื้อเป็นของเดินกิน ดูของไปเรื่อยๆก็ได้นะ
เดินจนมืดค่ำ หมดทั้งถนนคนเดินประตูท่าแพ ละ ฝนก็ดันตกลงมา นักท่องเที่ยวต่างก็หาที่หลบฝนกันใหญ่ แม่ค้า พ่อค้าแต่ละร้านที่มีร่มกางก็ใจดี ให้เข้าไปหลบฝนได้ด้วย ตกฉ่าใหญ่ๆ มาสักพักหนึ่งก็หยุดถึงเวลารีบกลับโรงแรม ดีกว่าเดี๋ยวจะตกอีกรอบคราวนี้ไม่ได้กลับแน่ๆ ถึงห้องก็อาบน้ำ และวางแผน การเดินทางต่อพรุ่งนี้ดีกว่า
วางแผนเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้
กลับถึงห้องพักก็เตรียมตัววางแผนการเดินทางต่อดีกว่า ว่าพรุ่งนี้จะไปไหนกันดีน้อ นั่งอ่านรีวิว นั้นนี่ไปเรื่อย สรุปได้เลยว่า เราจะไป หมู่บ้านแม่กำปอง กัน อันดับแรกเลย ต้องหารอบรถก่อน
รถตู้มีทุกวัน รอบ 7.40 11.40 และ 14.30 จองรอบ 11.40 ราคา 150 บาท ขึ้นที่ตลาดวโรรส หรือกาดหลวง
ซึ่งจะเดินเท้า ไประยะทางประมาณ 1กม.กว่าๆถึงที่จอดรถตู้ โดยผมได้จองรถตู้ไว้รอบ 11.40 น. โอนมัดจำเรียบร้อยไว้กับทางเพจ รถตู้น้ำพุร้อนสันกำแพง Van transpot to San Kamphaeng Hot Springs เป็นอันสิ้นสุดภารกิจกิจกรรมในวันนี้ เข้านอน ได้ ติดตามการรีวิว แม่กำปอง ต่อได้ใน Part ต่อไปครับ
กำลังอ่านเพลินๆ เลยค่ะ อ้าว! จบตอนละ