หลังจากได้ไปขึ้นหมู่บ้านห้วยกุ๊บกั๊บ จาก Ep.ก่อน นอกรอบ – เติมพลังหนีขึ้นดอย @ ห้วยกุ๊บกั๊บ จ.เชียงใหม่ ได้เจอทะเลหมอกอย่างล้นหลามอิ่มเอมใจ เราก็ลงจาห้วยกุ๊บกั๊บมานั่งสองแถว กลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ท่ารถช้างเผือก ในวันนี้เราจะทำการเช่ารถขับบ้างดีกว่า ผมใช้บริการของ KinteawRentcar วันละ 700 บาท เป้าหมายวันนี้ เราจะไปเปลี่ยนบรรยากาศ จากนอนบนยอดดอยแล้ว จะไปนอนกลางหุบเขากันบ้าง อยู่ท่ามกลางสายหมอกและขับรถไปไม่ไกล นั้นก็คือ ไร่ชาลุงเดช เป็นโฮมสเตย์ ที่อยู่ท่ามกลางไร่ชา ในหุบเขา ไม่รอช้ารีบไปกันดีกว่าา

ไร่ชาลุงเดช

เดินทางสู่ ไร่ชาลุงเดช กันนน

ขับรถมุ่งหน้าไปยัง อำเภอแม่แตง ระยะทางประมาณ 60 กม ใช้ระยะเวลาประมาณ 1ชั่วโมงครึ่ง ก็ถึงแล้ว เส้นทาง ลาดยางตลอดทาง ไปไม่ยากเลย แต่จะมีขึ้นเขาเลี้ยวโค้งบ้างนิดหน่อย แต่ตรงทางขึ้นด้านหน้า ทางเข้าไร่ชา แอบชันนิดหน่อย ใครไม่มั่นใจในฝีมือก็จอดรถด้านล่างแล้วเดินขึ้นไปแทนได้ครับ แต่ถ้ารถพร้อมคนพร้อม ก็ขับขึ้นไปโลด มีที่จอดรถไว้รองรับ

ไร่ชาลุงเดช

ถึง ไร่ชาลุงเดช แล้วว

ไร่ชาลุงเดชอยู่ท่ามกลาง ธรรมชาติ บนดอยที่อยู่ท่ามกลางหุบเขา เป็นไร่ชาเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก มีลุงเดชเป็นเจ้าของไร่ชาแห่งนี้ ซึ่งไร่ชาลุงเดชทำเป็นแบบ โฮมสเตย์บ้านๆ ที่เริ่มต้นจาก ทำไร่ชา ศึกษาและเรียนรู้การปลูก การแปรรูปชามานานนับสิบปี และเริ่มมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวไร่ชา มาลองชิมชา มาทานอาหาร ขนมที่มีชาเป็นส่วนประกอบ แบบธรรมชาติจริงๆและปลอดสารพิษ มาแบบ one day trip กัน หลังจากนั้นก็เริ่มทำเป็นที่พักโฮมสเตย์ขึ้น มาเรื่อยๆ จนตอนนี้มี บ้านพักโฮมสเตย์ อยู่ 7 หลัง แล้วว ถือว่าอยู่กับธรรมชาติจริงๆ

ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช

ธรรมชาติและความสงบที่ ไร่ชาลุงเดช

บรรยากาศที่ไร่ชาลุงเดช บรรยากาศดีมากกกกก ก.อีกล้านตัว อากาศเย็นสบาย อากาศสดชื่น มีความสงบ เหมาะกับคนที่เที่ยวแบบต้องการความสงบ ต้องการพักผ่อนชิลๆ ชมธรรมชาติ ท่ามกลางไร่ชาและธรรมชาติตามแนวเขาลาดยาวลงไป ดูต้นไม้อุดมสมบูรณ์และเขียวขจี มีวิวภูเขาที่สลับซ้อนอยู่ด้านหน้า มีไร่ชาปลูกเป็นแถวเรียง ลงไปเป็นแนวชั้นๆ สามารถลงไปเดินถ่ายรูปท่ามกลางไร่ชาได้เลย

ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช

คาเฟ่ไร่ชาลุงเดช

ไร่ชาลุงเดช เป็นคาเฟ่ บ้านไม้ ฟีลเหมือนอยู่โรงเรียน มีเก้าอี้ไม้ โต๊ะไม้ แล้วก็ระเบียงไม้ ด้านหน้าเป็นไร่ชาปลูกเรียงไปตามแนวเขาไล่ลงไป เหมือนอยู่ในหุบเขา ที่คาเฟ่มีเมนูให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น อาหารคาว เค้ก ชา เครื่องดื่ม มาถึงเหนื่อยๆ ไม่รีรอช้า สั่งเมนู ซิกเนเจอร์ของไร่ชาลุงเดชเลย เค้กชาเขียว กับ ชาเขียวเย็น รสชาติคือชาเขียวแท้ๆเลยแหละ นั่งกิน นั่งชมวิวไปเรื่อยยย ก็ไปเข้าห้องพักที่จะพักคืนนี้กับเก็บของก่อนดีกว่า

ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช

ไปบ้านพักโฮมสเตย์ไร่ชาลุงเดช

ไปติดต่อขอกุญแจ อีกแล้วครับท่าน…วันนี้เราเหมาโฮมสเตย์อีกแล้ว เป็นลูกค้าคนเดียวที่นอนพัก ไร่ชาลุงเดชคืนนี้ น้องบอกพี่อยากได้หลังไหน เลือกได้เลยเดี๋ยวเอากุญแจให้ ผมเดินดูมีให้เลือกทั้งหมด 7หลัง แยกกันอยู่ใกล้ๆ ไม่ห่างกันนัก ก็เลยเลือกหลังนี่แหละเบอร์ 3 หลังกลางไปเลย ไหนๆก็อยู่คนเดียวไม่ใครมาพักละ ขนกระเป๋าจากรถเข้าบ้าน บ้านพักแต่ละหลังไม่ใหญ่นัก เป็นที่พักนอนได้ 2 คน มีมุ้งให้กาง มีไฟฟ้า ปลั๊ก ให้พร้อม มีห้องน้ำในตัว แต่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นนะ!! หน้าบ้านมีระเบียงนั่งยื่นออกมาให้นั่งชมวิวของไร่ชาได้อย่างสวยงาม ซึ่งแต่ละหลัง วิวด้านหน้าของไร่ชาลุงเดชก็จะแตกต่างกันไป

ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช

เดินถ่ายรูปเล่นกลางไร่ชาลุงเดช

หลังจากเก็บของสำรวจห้องพักเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาไปเดินถ่ายรูปเล่นในไร่ชาของลุงเดชกันดีกว่า ที่ไร่ชาลุงเดชเป็น ต้นชาที่ปลูกเรียงกันเป็นแถวๆ นับ10แถว ไล่เรียงลงไปตามแนวหุบเขาด้านล่าง มีความชัน และลื่นอยู่ระดับหนึ่งเลย เพราะเพิ่งรดน้ำไป ใครชอบถ่ายรูปที่นี้ ลุงเดชมีตระกร้าเก็บชาเป็นพรอพ ถ่ายรูปให้ยืมถ่ายรูปด้วยนะ มุมถ่ายรูปสวยๆที่นี้ก็มีเยอะด้วย ใครชอบถ่ายรูปก็ลองมากันได้เลย

ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช

ถึงเวลาช่วงเย็นก็เริ่มหิวอีกรอบละ เดินไปทีคาเฟ่ สั่งอาหารรอเลยดีกว่า ซึ่ง คาเฟ่ไรชาลุงเดช จะปิดประมาณ 5 โมงเย็น ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่มากัน จะมาชมวิว กินชา กินข้าว กินเค้กกัน แล้วก็เดินทางกลับกันหรือเดินทางกันต่อ เมนูอาหารของที่นี่มีให้เลือกอยู่นิดหน่อย ผมก็เลยเมนูขึ้นชื่อของที่นี่เลยคือ ยำปลากระป๋องใบชา และใบชาทอดกรอบ อยากจะสั่งเยอะกว่านี้แต่กลัวกินไม่หมดแค่นี้พอละกัน ระหว่างรอกินข้าวเย็น ก็ได้เจอกับ ลุงเดช เจ้าของไร่ชาที่นี่ ก็เลยเข้าไปสวัสดีแล้วก็พูดคุยกับลุงเดช เป็นกันเองมาก ได้พูดคุยถามนู่นนี่เกี่ยวกับไร่ชาของลุงเดชเยอะมาก ลุงแกก็เล่าให้ฟังไปเรื่อยยย

ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช

ทำไมถึงต้องเป็น ไร่ชาลุงเดช

ลุงเดช และป้าภรรยาของลุงเดช เป็นเจ้าของที่ดินแห่งนี้เลย และได้เริ่มต้นปลูกชา มานานนับสิบปี และเป็นคนดูแลที่นี่ทั้งหมด นอนอยู่ที่ไร่ชาแห่งนี้เลย มีคนงานคอยช่วยดูแลไร่ชา ต้นไม้ ผลไม้ที่นี้ ไร่ชาของลุงเดช มีการดูแลอย่างดี เอาใจใส่ ตั้งแต่การปลูก การเก็บชา การแปรรูป ลุงเดชดูแลทุกอย่างทุกขั้นตอนเป็นอย่างดี จึงทำให้ ต้นชาของลุงเดชเติบโตสมบูรณ์ และให้ผลผลิตใบชาที่ดีมีคุณภาพมาตลอด นอกจากต้นชาแล้ว ยังมีต้นทุเรียน ที่ออกลูกแล้วด้วยนะ แต่ยังไม่แก่ ไม่งั้นขอลุงเดช ชิมละเสียดายเลย

ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช

ข้าวเย็น ณ ไร่ชาลุงเดช

อาหารเย็นมาแล้วว ยำปลากระป๋องใบชา กับ ใบชาทอดกรอบน้ำจิ้มไก่ แปลกใหม่ดีไม่เคยกินที่ไหน รสชาติอร่อย ซัดจนหมดจาน อย่างอิ่ม รอดตายไปอีก 1 วัน กินข้าวเย็นพร้อมกับวิวไร่ชาด้านล่าง และพระอาทิตย์กำลังจะตก มันสวยมากก เพิ่มความอร่อยของข้าวเย็นไปอีก 300% ที่ไร่ชาลุงเดช อย่างที่บอกข้างต้นคือเป็น สถานที่ท่องเที่ยว ที่ต้องการความสงบ ที่คาเฟ่ จึงไม่มีอะไรขายหลังจาก 5 โมงเย็น เครื่องดื่มต่างๆ รวมถึงแอลกอฮอล์ ถ้าอยากดื่มต้องเดินลงไปด้านล่างตามทางที่ขับขึ้นมาโน่นน

ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช

จบวันพักผ่อนไปอีกหนึ่งวันละ

ตอนนี้ก็ไม่มีไรทำละ ไปหาซื้อขนม เครื่องดื่มไว้สักหน่อยดีกว่า เดี๋ยวกลางคืนจะหิวเอา ก็เลยเดินตามถนนลงไปด้านล่างที่ขึ้นมา ระยะทางประมาณ 300 เมตร แต่ๆๆ เป็นทางชันนะ ตอนลงไม่เป็นไร ตอนขึ้นกลับมาเนี่ยแหละรู้เรื่อง ได้เบียร์มาป๋อง กับขนม1ถุง กลับมานั่งชิวอยู่ที่ ระเบียงหน้าบ้านพักจนมืด ก็หมดไปอีกวันกับการพักผ่อน สูดอากาศบริสุทธิ์ ที่ไรชาลุงเดช อาบน้ำเข้านอน จบการเดินทางวันที่2 ณ เชียงใหม่ เตรียมพร้อมกับการเดินต่อไปในวันพรุ่งนี้ดีกว่าา

ไร่ชาลุงเดช

ตื่นมาท่ามกลางสายหมอกปกคลุมทั่วไร่ชา

เช้าตรู่อันสดใส ตื่นเองแบบไม่ต้องมีนาฬิกาปลุก ไม่ต้องมีเวลามากำหนดเรา อยากตื่นก็ตื่น แล้วมันก็ตื่นเช้ากว่าวันไปทำงานอี้กก 7 โมงเช้าตื่นขึ้นมา เปิดหน้าต่างเปิดประตูออกมา โอ้วโหวตกใจกับสิ่งที่เห็นมาก ด้านหน้า ขาวโพลนเลย ไร่ชาที่เต็มไปด้วยหมอกเต็มไปหมด มองแทบไม่เห็นอะไรด้านหน้าเลย เราอยู่ท่ามกลางหุบเขา อยู่ท่ามกลางหมอกที่ปกคลุมทั่วไร่ชาไปหมดเลย อากาศก็เย็นสบายมาก มันโคตรจะฟินเลยยย

ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช

ได้ฟีลที่แตกต่างจากเมื่อวานเลย เมื่อวานคือเราอยู่บนยอดดอยอยู่เหนือหมอก เห็นหมอกด้านล่างขาวโพลนเต็มไปหมด แต่วันนี้เราอยู่ ใจกลางท่ามกลางหมอกเหล่านั้น มันดีย์จริงๆ ลงไปอยู่ท่ามกลางไร่ชา อยู่ท่ามกลางสายหมอก เก็บช่วงเวลาความฟินนี้ไว้ ก่อนที่หมอกจะหายไป

ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช

หมดเวลาความสงบ ที่ไร่ชาลุงเดชแล้วสิ

เดินไปสั่งข้าวต้มร้อนๆ พร้อมกับ ชาเขียวร้อน มานั่งจิบ ในบรรยากาศ แบบนี้ มันดีมากๆ เป็นอาหารเช้า ที่ดีสุดๆ ช่วงเวลาสายๆ หมอกได้จางหายไปละ ก็อาบน้ำ เก็บของ แต่งตัว เตรียมเดินทางต่อดีกว่าา check out เรียบร้อย ค่าใช้จ่าย คืนละ 800 บาทเท่านั้น และเจอลุงเดช Selfie ก่อนกลับสักรูป และออกจากไร่ชาลุงเดช ก็มุ่งหน้าต่อไป ไปที่ Le Chi Pu กันเถอะ!!!

ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาลุงเดช

เดินทางกันต่อ แวะพัก น้ำตกหมอกฟ้า

ระหว่างทางเจอป้ายชี้ทางแนะนำให้เลี้ยว มานั้นคือ น้ำตกหมอกฟ้า ดูเวลาเรายังมีเวลาเหลือเฟือเลยนี่หว่า แวะสักหน่อยก็ได้ ขับรถเข้าไปไม่ลึกมากนักถนนแอบเล็กอยู่หน่อย ก็เจอที่จอดรถ พร้อมที่จ่ายค่าธรรมเนียม 20 บาทเข้าอุทยาน

น้ำตกหมอกฟ้า
น้ำตกหมอกฟ้า

เดินเข้าไปที่น้ำตกไม่ระยะทางไม่ไกลนัก ประมาณ 500 เมตร เดินเรื่อยๆ 15 นาที่ก็ถึงละ เส้นทางเดินแสนง่าย เดินทางลาดไปเรื่อยๆ ก็เจอน้ำตก สวยงามตามท้องเรื่อง มีชั้นเดียวเลยไม่มีขึ้นไปต่อ น้ำตกสูงอยู่ มีน้ำตกไหลเยอะเลย น้ำก็เย็นเจี๊ยบบบ สามารถลงเล่นน้ำได้ด้วยนะ

น้ำตกหมอกฟ้า
น้ำตกหมอกฟ้า
น้ำตกหมอกฟ้า
น้ำตกหมอกฟ้า
น้ำตกหมอกฟ้า
น้ำตกหมอกฟ้า

ของแปลก ถ้ำผาหน้าคน ที่ น้ำตกหมอกฟ้า

นั่งพักถ่ายรูป เดินกลับก็เจอเส้นทางชี้ไป ถ้ำผาหน้าคน ไอ้ความอยากรู้ก็ไปสิคราบรออะไร คราวนี้ต้องปืน และเดินชันขึ้นไปบนเขา เดินไปสักพัก ขึ้นไปอยู่แถวข้างๆน้ำตกเลย ก็เจอถ้ำละ แต่ไหนหน้าคนวะ เป็นรูปวาดหรอ หรือยังไง มองไปสักพัก มองไปดีๆ เห้ย หินหน้าปากถ้ำ มันเป็นรูปหน้าคนนี่หว่าา แปลกดีเหมือนกัน ถ่ายรูปเสร็จก็ เดินกลับที่รถ เพื่อเดินทางกันต๊อออออออ

น้ำตกหมอกฟ้า
น้ำตกหมอกฟ้า
น้ำตกหมอกฟ้า

จบการเดินทางที่ๆหนึ่ง เพื่อเริ่มต้นเดินทางไปที่แห่งใหม่

จบไปกับอีก 1 EP ที่ไร่ชาลุงเดช สถานที่ๆ มีความสงบ ท่ามกลางธรรมชาติ ที่อยู่ท่ามกลางหุบเขา เหมาะกับการพักผ่อน ชาร์จพลังอย่างมาก ใครที่ต้องการที่สงบๆ สูดอากาศสดชื่นๆ หนีความวุ่นวาย ผมแนะนำเลยมาพักที่นี้ได้เลย สิ่งอำนวนความสะดวกก็เพียงพอต่อความต้องการแล้ว อาหารก็อร่อย เครื่องดื่มก็ดี อยู่กับธรรมชาตินี่แหละดีที่สุดแล้ว และพบกันใหม่ กับ EP.ถัดไป ความสนุกกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ไปใช้ชีวิตกับคนแปลกหน้า ที่ Le Chi Pu ฝากติดตามด้วยครับ ขอบคุณทุกคน ที่อ่านจนจบคราบบ

น้ำตกหมอกฟ้า