ไปเที่ยว สุพรรณบุรี บึงฉวาก x นอนเต้นท์โดม La Colline Campground 2 วัน 1 คืน
นอกรอบ กลับมาคราวนี้ ขอพาไปเที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพกันดีกว่า เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง โดยเราจะไป เที่ยว สุพรรณบุรี กันนน หลายคนคิดว่าจังหวัด สุพรรณบุรี เที่ยวไหนดี มันไม่น่ามีไรเที่ยวใช่ไหมละ คิดผิดละ จังหวัดนี้ ที่เที่ยว ที่พัก ดีๆทั้งนั้น แบบว่า Unseen ได้เลย ไม่คิดว่า ที่นี่ใช่จังหวัด สุพรรณบุรีจริงๆหรอเนี่ย
รอบนี้เราไปเที่ยวที่จังหวัด สุพรรณบุรี 2 วัน 1 คืน ด้วยกัน เป็นทริปง่ายๆ ขับรถไปแบบไม่ต้องคิดอะไร ไม่ต้องรีบร้อน ออกไปพักผ่อน ชิวๆ เติมพลังให้กับร่างกายบ้าง ซึ่งรอบนี้ก็ไม่ได้แพลนไรมากนัก ก็อยากไปเที่ยว เปลี่ยนที่นอน มีเวลาแค่เสาร์-อาทิตย์ 1 คืนเท่านั้น มีที่ไหนมั่งนะ ไม่ไกลกรุงเทพ ขับรถไปได้สบายๆ แวปเข้ามาในหัว สุพรรณบุรี ไม่รีรอ Google สิครับ “สุพรรณบุรี เที่ยวไหนดี” “ที่พัก สุพรรณบุรี” ตามหาที่พัก ที่เที่ยว ที่ไหนน่าสนใจ
จนเจอที่ หนึงโคตรโดน La Colline Campground นอนเต้นท์โดม ริมน้ำ พร้อมทั้งราคาโปรโมชั่น แถม อาหารเช้า 1800 บาทเท่านั้น เนื่องจาก เราไปเดือน พ.ค หน้าร้อน เริ่มจะเข้าหน้าฝนพอดี ไม่รอเช้าจองเลยสิครับลุย
ออกเดินทางไป เที่ยว สุพรรณ กัน
ออกจากรุงเทพ ชิวๆ 9 โมงกว่าๆ เกิดแพลนมาในหัว ยังไม่อยากตรงไปที่พักเลยขอหาที่ เที่ยว สุพรรณบุรี ก่อนสักที่ละกัน นึกขึ้นมาได้ สมัยวัยเด็กนั้น โรงเรียนเคยพามาทัศนศึกษา ที่จังหวัดสุพรรณบุรีนี่หว่า จำได้ว่าไปที่ บึงฉวาก ขอย้อนวันวานหน่อยละกัน ดิ่งรถไปเลยย
ใช้เวลา2ชั่วโมงนิดๆก็ถึง บึงฉวาก มีบึงน้ำ ใหญ่โตมโหฬาร ไม่เปลี่ยนเลยแหะ จ่ายค่าเข้าผู้ใหญ่ ไป 30 บาท ที่นี่ เสาร์-อาทิตย์ เวลาเปิด-ปิด 08.30 -17.00 นะ ที่จอดรถรองรับไว้เยอะมาก และก็คนเยอะมากเช่นกัน
เริ่ม สำรวจโลกใต้น้ำที่ บึงฉวาก สุพรรณบุรี
จ่ายค่าตั๋ว เสร็จ เดินตามทางเข้าไปเรื่อยๆ เข้าไปถึง เจออาคารแรก เป็นส่วนที่โชว์สัตว์น้ำจืด มีปลาหลากหลายสายพันธุ์มาก ปลาหน้าตาแปลกๆ ไม่เคยเห็นที่ไหน ปลาที่ใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว ก็มี และก็ปลาแบบรุ่นเก๋า ตัวใหญ่จัดๆ ที่เคยเห็นสมัยเด็กมาเมื่อหลาย 10 ปีก่อน ก็น่าจะยังคงอยู่เพิ่มเติมคือ ตัวใหญ่โคตร จัดแสดง อยู่ในตู้กระจก รวมถึงมีรายละเอียด เกี่ยวกับสายพันธุ์ปลาต่างๆเที่เลี้ยงอยู่ในนี้เป็นความรู้อีกด้วย
ลอดอุโมงค์ปลาน้ำจืดแห่งแรกของประเทศไทย ที่บึงฉวาก
เดินมาถึงจุดไฮไลท์ของอาคารนี้เลย ที่จำได้ว่า ตอนสมัยเด็กมันว้าววว มาก และตอนนี้มันก็ยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลงเลย นั้นคือ อุโมงค์ลอดใต้น้ำ ที่่เราสามารถเดินทะลุใต้ท้องน้ำ มองเห็นพุงปลา ว่ายไปมาเหนือหัวเราได้เลย เหมือนเราไปอยู่ใต้น้ำอ่ะ เขาบอกว่าที่นี่คืออุโมงค์ใต้น้ำจืดที่แรกของประเทศไทยเลยนะ
ถึงแม้ระยะทางมันจะสั้นไม่ยาวมากนัก ก็ยังทำให้นึกถึงความหลังสมัยเด็ก ในอุโมงค์แย่งกันเข้าไปถ่ายรูป วุ่นวายจัดๆเลย 5555 มาตอนนี้สบายๆ เลยไม่ต้องแย่งกัน รวมถึง มีแสดงโชว์ให้อาหารปลาในอุโมงค์น้ำนี้อีกด้วยนะ ถ่ายรูป เดินดู กันได้แบบเพลินๆ แอร์เย็นสบาย
ไปดูสัตว์ใต้ทะเลกันต่อ
ออกมาจากอาคารหลังแรก ก็เจออาคารใหม่ ที่สมัยก่อนมันยังไม่เคยมีนี่หว่า เป็นอาคารแสดงสัตว์น้ำเค็ม ไม่รอรอช้า จ่ายค่าบัตรเพิ่มเติม อีกคนละ 150 บาท พอได้เข้าไปอลังการงานสร้างกว่าเดิม แอร์เย็นเจี๊ยบ ทุกอย่างดูใหม่แปลกตาไปหมด
เริ่มต้นขึ้นบันใดเลื่อนไปชั้น 2 ก่อนเข้าข้างใน พบ น้องปูเสฉวน ในตู้ รอต้อนรับละ เดินเข้าไปข้างใน ก็จะเจอ อุโมงค์ใต้น้ำแบบเฉียงๆ เป็นทางลงพร้อมบันไดเลื่อน แปลกๆดี ในตู้ ก็มีสัตว์น้ำทะเลให้เราดู ปลา เต่า แต่ยังไม่เต็มตู้มากนัก เดินตามทางเข้าไปเรื่อยๆก็จะเป็น อุโมงค์ใต้น้ำที่ยาวกว่า อาคารหลังแรกมาก ให้เราเดินดูปลาใต้ท้องทะเลแบบเพลินๆไปเลย
มาถึงจุดไฮไลท์ของอาคารนี้ ก่อนจะถึงทางออก นั้นก็คือ อุโมงค์ปลาฉลาม ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ภายในเป็นอุโมงค์ใต้น้ำที่ใหญ่มากๆๆ รองรับคนได้เป็นร้อย รอบๆอุโมงค์ใต้น้ำ ก็จะมีฉลามหลากหลายสายพันธุ์ ว่ายไปมาอยู่บนอุโมงค์ ดูแล้วได้ใกล้ชิดกับฉลามแบบปลอดภัยดี หลังจากนั้นก็ถึงทางออก มีจุดขายของที่ระลึก อยู่สามารถช้อปปิ้งกันได้
เที่ยว สุพรรณ ดูไฮไลท์ ของบึงฉวาก โชว์จระเข้
ออกมาถึง จุดสุดท้ายของบึงฉวากที่จะพลาดไม่ได้ นั้นก็คือบ่อจระเข้ ตอนเด็กๆจำได้ว่าน่ากลัวจัดเลย ต้องเดินข้ามสะพานไปเดินดูบ่อจระเข้ นอนอ้าปากพร้อมงับเสมอ ซึ่งตรงจุดนี้จะมีการแสดงโชว์จระเข้ เป็นรอบๆ มี 11.00 12.00 14.00 และ 15.30 เลือกเวลากันให้ดี
ไปนั่งดู เขาโชว์แสดงเล่นจระเข้ นั้นจระเข้จริงๆใช่ไหม หรือ แมวอ่ะนั้น ไมมันเชื่องจังอ่ะ ไม่ว่าจะโชว์จูบ โชว์ลูบ โชว์ล้วง โชว์มุด เข้าไปในปากจระเข้ ก็ลุ้นดีอ่ะ ถือว่าได้ Unseen ไปชุดนึง ที่หาดูได้ยาก โชว์สนุกสนาน ใครว่างมีเวลาไม่รีบร้อน แนะนำอย่าพลาดครับ ดูเหอะ แนะนำเอาพัดลมไปด้วยนะอากาศมันร้อน
แวะสวนสัตว์ บึงฉวาก ทางผ่านพอดี
จบจากบ่อจระเข้ก็ถึงเวลา ออกจากบึงฉวากกันละ มุ่งหน้าไปที่พักของเรากันเถอะ ขับรถออกมานิดนึง ทางผ่าน มีสวนสัตว์บึงฉวาก ด้วยแหะ ไม่พลาดลงไปดูหน่อยละกัน เข้าไปดูจ่ายค่าเข้าคนละ 20 บาท ซื้อ แครอทให้ ยีราฟกิน แบบใกล้ชิด
เข้าไปเรื่อยๆ ก็พบ ม้า ลา ม้าลาย อีกมากมาย แบบติดขอบรั้ว แหย่นิ้วไปคือหายแน่ๆ ซื้ออาหารป้อนน้องๆได้ตลอด แต่หนทางมันอีกยาวไกลเหลือเกิน สวนสัตว์บึงฉวก มันใหญ่กว่าที่คิดไว้ ก็เลย ดูแค่นี้พอ เหนื่อยและร้อนละ กลับขึ้นรถไปที่พักกันต่อดีกว่า ใครมีเวลาก็เข้าไปข้างในได้อีกนะ มีทั้ง นก ลิง เสือ บลาๆๆ อีกมายลองเข้าไปดูกันได้
มุ่งหน้าสู่ La Colline Campground
ถึงเวลามุ่งหน้าสู่ที่พักจริงๆละ พร้อมกับสายฝนที่โปรยปรายตลอดทาง ใช้เวลาชั่วโมงนิดก็ถึงที่พัก แต่เส้นทางเข้าที่พักนี่ เอาเรื่องอยู่นะ ถนนไม่ค่อยดี หลุม บ่อ เต็มไปหมด ต้องขับแบบระวังสักหน่อย
ถึงแล้ว ขับไปจุดเช็คอินท์ La Colline Campground ไม่ไกลจาก เต้นท์โดมมากนัก ที่นี่มีที่พักเป็นแต่เต้นโดมเท่านั้น จำนวน 8 โดมด้วยกัน เราได้นอนห้องเบอร์ 6 รับกุญแจ พร้อมสั่งหมูกระทะสำหรับอาหารเย็นวันนี้รอไว้เลย
อย่างที่บอกไปข้างต้นเราได้มาเที่ยวกันในช่วงหน้าแล้ง กำลังเข้าฝน ทำให้น้ำในบึงมันน้อยมากๆ แต่มันก็ได้ความสวยไปอีกแบบหนึ่ง เพราะ ฝนพึ่งหยุดไป มันทำให้เกิดความสวยงามที่มันแบบว่าคาดไม่ถึง สิ่งที่เกิดขึ้น คือ หมอก เมฆ ที่ลอยต่ำ พัดผ่านภูเขา ไปเรื่อยๆ พร้ออากาศที่เย็นๆ ชื้นๆ หน่อย มันแบบว่าฟินสุดๆไปเลยอ่ะ ไม่คิดว่าจะเจอได้ที่นี่
พร้อมกับวิวที่เป็นภูเขา 180 องศา อยู่ด้านหน้าเรา พร้อมกับสะพานไม้เก่าๆที่ยาวไปด้านหน้าภูเขา มันโคตรจะ Unseen แบบไม่เคยเห็นมาก่อน ว่าที่นี่มันใช่ สุพรรณบุรี จริงๆหรอเนี่ย มันทั้งเงียบสงบ แล้วก็บรรยากาศที่ร่มรื่นมากๆ พร้อมกับ องค์ประกอบต่างๆที่อยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็น ต้นไม้ ใบหญ้า ที่พัก ภูเขา แอ่งน้ำ หมอก เมฆ รวมกันทั้งหมดแล้ว มันไม่ใช่ที่จะหาเจอได้ง่ายๆ ในที่แบบนี้
นอนเต้นท์โดม La Colline Campground สุพรรณบุรี
ที่พักก็จะเป็นเต้นท์โดม ห้องน้ำในตัวพร้อม ที่นองเตียง นอนสำหรับ 2 คนกำลังดี มีแอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น พร้อมที่ฉีดตูด ไดร์ดเป่าผม พร้อม เรียกได้ว่า ครบทุกสิ่งอำนวนความสะดวก เตียงหันหน้าออกไปด้านหน้า ภูเขา พร้อม ผนังพลาสติกใสๆ ทำให้เราเห็นวิวด้านนอกแบบชิวๆ ได้เลย นอนบนเตียงก็ดูวิวได้
ตกเย็น ชุดหมูกระทะ ก็มาส่งแล้ว ที่หน้าเต้นท์ของเราก็มีโต๊ะ บริการให้พร้อม โอ้โห บรรยากาศ ยามเย็น พร้อมหมูกระทะ ชุดนี้มันช่างเกินคำบรรยาย ฟินมากก และอีกอย่าง ผักทั้งหมดของที่นี่ ปลูกเองทั้งหมด ไข่ไก่ก็เก็บสดๆ เลี้ยงเอง เก็บเอง หมูที่เอามาย่าง ก็หมักโคตรจะเทพ อร่อยแบบว่า อร่อยอ่ะ อร่อยกว่าร้านดังๆในกรุงเทพ เยอะเลยแหละ
อย่าพลาดเลยเลยนะมา La Colline Campground ต้องโดนหมูกระทะให้ได้ เด็ดจริง กินไป ย่างไป เครื่องดืมเย็นๆ พร้อมวิวที่เป็นภูเขา อยู่ล้อมรอบด้านหน้าเรา มันสุดยอดเกินจะบรรยาย
หลังจากย่างหมูกระทะ จนพระอาทิตย์ตกดินไป พร้อมกับความมืดที่เข้ามา เสียงจิ้งหรีด จั๊กจั่น อึ่งอ่างก็ร้องกันดังสนั่น เข้าถึงธรรมชาติสุดๆๆ เหมือนจะฟิน แต่แล้ว จากนักท่องเที่ยวกลายเป็นผู้ประสบภัยเกิดขึ้น ฝูงแมงเม่า ถล่มโต๊ะที่เรานั่งกินหมูกะทะ ที่กำลังเข้าถึงบรรยากาศชิวๆๆ จนทำให้ต้องเลิกกิน แล้วเข้าไปดื่มด่ำกับธรรมชาติ ภายในเต้นท์แทน ก็เป็นอันจบ 1 วันที่ ได้หลากหลายฟีลลิ่ง มากมาย ครบเครื่องทุกอารมณ์ เป็นค่ำคืนที่แสนพิเศษสุดๆไปเลยแหละ
ตื่นเช้ากับฝูงแพะ หน้าเต้นท์โดม La Colline Campground
ตื่นเช้าอากาศสดชื่นน เปิดม่านไป ตกตะลึง กับฝูง แพะ เต็มหน้าลานที่พักไปหมด ที่กำลังกินหญ้าอยู่ทั่วทุ่งหญ้า และก็ ท้องฟ้า บึงน้ำ ก็สวยมาก หลังจากที่เมื่อวานตอนเย็นไม่ได้เจอฝูงแพะ เพราะฝนตกที่พักเลยไม่ได้ปล่อยออกมา ไม่รีรอ รีบอาบน้า แต่งตัว ออกไปทางอาหารเช้าก่อน
อาหารเช้า มีให้เลือก เป็นข้าวต้ม หรือ ไข่ดาวไส้กรอก ให้เลือกคนละ 1 ชุด หลังจากนั้น ก็มาเดินเล่น ถ่ายรูป กับแพะ ดู มันวิ่งไปมา กินหญ้า ไปทั่วที่พัก เพลินๆ เลย พร้อมกับ เช้าวันนี้ที่ท้องฟ้า อากาศ ที่โคตรจะสดใสเลย ดูแล้วเหมือนไม่ได้อยู่ประเทศไทยเลย
ฝูงแพะ โคดหิน แอ่งน้ำ ทุ่งหญ้าเขียวๆ มัน Unseen อีกแล้ว ไม่น่าเชือว่าที่นี่คือ จังหวัดสุพรรณบุรี อ่ะ อยากให้ทุกคนมาลอง สัมผัสเองจริงๆนะ มันโคตรจะดีเลย น้อยคนที่ยังไม่รู้ว่าจังหวัดนี้มันมีของดีที่ซ่อนอยู่ มันรู้สึก เหมือนไปอยู่ในรูปที่ประเทศนิวเซีแลนด์ เลยนะ เลยขอตั้งชื่อที่นี่ ว่าเป็น สุพรรณซีแลนด์ นิวซีแลนด์เมืองไทย อีกสักที่ละกัน
ปิดท้าย เช็คเอ้าจะกลับกรุงเทพ ก็ ลองแวะฟาร์ม ไก่ของที่พัก ไปเก็บไข่ไก่สดๆจากฟาร์มได้เลย จากแม่ไก่ที่นั่งฟักอยู่เลย และ มีแปลงผักปลอดสารพิษที่ทางที่พักปลูกเอง ที่ได้กินกับหมูกระทะเมื่อคืนนี้ และก็ออกเดินทางกลับเข้ากรุงเทพอย่างสวัสดิภาพ
บทสรุป เที่ยว สุพรรณ บึงฉวาก x นอนเต็นท์โดม La Colline Campground
บทสรุป การเดินทางครั้งนี้ถึงแม้เจะเป็นระยะทางสั้นๆ ไม่ไกลนัก และก็ใช้เวลาแค่ 2 วัน 1 คืน ไปที่ จังหวัด สุพรรณบุรี จากคำถาม สุพรรณบุรี เที่ยวไหนดี เราก็ได้เจอกับที่ๆ ได้ปล่อยจอย ได้ปล่อยกาย ปล่อยใจไปพักผ่อน ชิวไปกับท่ามกลางธรรมชาติ หลังจากที่ทำงานมาอย่างหนักหน่วง หลายเดือน ออกมาพักผ่อนกันบ้าง มาชาร์จแบต เติมพลังชีวิตกันเถอะ ตามหาประสบการณ์ หาจุด Unseen ที่ไม่คิดว่าที่แบบนี้ มันมีอยู่ด้วยหรอเนี่ย มันซ่อนอยู่ได้ไงตั้งนาน ทำไมเราถึงมองข้ามไปได้
จังหวัดเล็กๆ จังหวัดรอง มันมีที่เที่ยว มันมีสเน่ห์ของมัน ให้เราตามหาได้เสมอ หรือ จะลองย้อนอดีตไปในวันเด็ก เคยไปเที่ยวที่ไหนมา เมื่อโตแล้ว ก็ลองกลับมาหามันดูอีกสักครั้งสิ มันเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหนละ มันทำให้เราได้เห็น รื้อฟื้นความทรงจำสมัยเด็ก เห้ยตรงนี้มันยังอยู่นี่หน่า เคยมาเล่นกับเพื่อนคนนั้นคนนี้ มันก็มีความสุขดีนะ หรือได้เห็นการเปลี่ยนแปลง เห็นอะไรใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา ตื่นเต้นไปกับมัน สนุกไปกับมัน
ลองใช้ชีวิตแบบ นอกรอบ อยากไปไหนก็ไป ใช้ชีวิตให้สนุก แล้วเก็บเรื่องราวดีๆของมันไว้ในความทรงจำของเราต่อไป ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและ อ่านจบลงตรงนี้ครับ กับสุพรรณซีแลนด์
