🚩🚩 แม่แดดน้อย หรือ ม่อนแดดน้อย จ.เชียงใหม่ ที่นี่ มีแต่ความสุข🚩🚩 กับการเดินทางคนเดียวแบบไร้จุดหมาย พร้อมสะพายเป้ 1 ใบไปให้ทั่ว
จุดมุ่งหมาย ในการออกทริปครั้งนี้คือ ต้องการหา สถานที่ๆได้พักผ่อนจริงๆ Recharge พลังงานของเราได้ เต็ม 💯 ☘️ @ ม่อนแดดน้อยโฮมสเตย์ หรือ หมู่บ้าน แม่แดดน้อย อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ ☘️ สถานที่ๆเราได้พบกับประสบการณ์ การเดินทาง การพักผ่อน และมิตรภาพดีๆ เป็นกันเองสุดๆ อยู่แบบสบายใจ อากาศดีๆเย็นสบายตลอดทั้งวัน ได้พักผ่อน ร่างกาย สมอง และจิตใจได้ดีสุดๆ
👉👉 การเดินทางนี้ถือว่าเป็นที่สุดท้ายและในการมาทริปเชียงใหม่ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการเดินที่คุ้มค่าที่สุดแล้ว ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนเลย ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก และอยากจะกลับมาอีกเรื่อยๆ
#lotustheadventure
ถึงแม้ว่าจะใช้ระยะเวลาถึง4ชั่วโมง กว่าจะถึง หมู่บ้านแม่แดดน้อยในการนั่งรถขึ้นไป ผ่านภูเขา ขดเคี้ยวตลอดทาง แต่บอกเลยคุ้มค่าในการเดินทางมาก อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัส ด้วยกันเลยจริงๆ
เริ่มต้นกันไป หมู่บ้านแม่แดดน้อน ดีกว่า …
หลังจากที่ได้ไปเที่ยว รีวิวแม่กำปอง Part 3 : หนีไปตั้งหลักที่แม่กำปอง และ Part 3.5 : ขึ้นกิ่วฝิ่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น เรียบร้อย ถึงเวลากลับ นั่งรถตู้แม่กำปอง กับ การหาที่ว่าจะไปไหนต่อดี ก็มีอยู่ 2 ที่ในใจด้วยกัน ป่าปงเปียง หรือจะไป ม่อนแดดน้อย ดี ซึ่งทั้งสองที่นี้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ที่สวยทั้งคู่ ของจังหวัดเชียงใหม่
ศึกษาการเดินทางแล้ว ม่อนแดดน้อย น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุด เลยขอพี่รถตู้ ช่วยจอดรถที่ท่ารถช้างเผือกหน่อย
ลงรถตู้เกือบ 11โมงได้ ก็รีบหา สองแถวสีเหลือง ที่จะไป อ.กัลยาณิวัฒนา ให้ทั่ว โชคดี รถ กำลังจะออกพอดีเลย และรีบโทรหาที่พัก บอกว่าห้องยังว่างอยู่ไม่รีรอ จ่ายตังไป 160 บาท กระโดดรถ ซึ่นบนรถ มีแค่ 2 คน เท่านั้น นอกนั้นของเต็มรถเลย ถือว่าโชคดี นั่งสบายๆยาวเลย
ระหว่างทางการเดินทางไป แม่แดดน้อย
รู้สึกสนุกกับนั่งรถ สองแถวแบบนี้มาก คือได้เห็นอะไร ตลอด 2 ข้างทาง ผ่านหมู่บ้านนั้น หมู่บ้านนี้ การทำเกษตรกรรม มีปลูกอะไรกันบ้าง ป่าไม้ บนเขา บนดอย แตกต่างกัน วิวตลอด 2 ข้างทางเปลี่ยนตลอด ซึ่ง เป็นอะไรที่ ดีมากๆ คือ จะถ่ายรูปก็ไม่ทันอะ เวลาเห็นวิวสวยๆ ตลอดทาง
4 ชม ผ่านไป….
หลับบ้าง ตื่นบ้าง ก็ถึงสักที จุดชมวิว พี่คนขับรถ 2 แถวใจดี เห็นเป็นนักท่องเที่ยว เลยแวะให้ ถ่ายรูป แปปนึง ตรงจุดชมวิว เหยียบเมฆา
วิวสวยมากกกกกก ก.อีกล้านตัว คือวิวภูเขา ซ้อนๆกัน โล่งๆแบบ 180 องศา เสียดายมีเวลาไม่มากเลยไม่ได้ เดินไปที่ปลายทางนู้นน
จุดชมวิวเหยียบเมฆา อยู่ระหว่างทางไปที่ ม่อนแดดน้อยโฮมสเตย์ ไม่ไกลนัก ประมาณ 15 นาทีก็ถึงจุดหมาย
ถึงที่พัก ม่อนแดดน้อยโฮมสเตย์วิวงาม ที่นี่ พี่ชิ เจ้าของโฮมสเตย์ เป็นคนดูแล เป็นเจ้าของ เป็นพ่อครัว เป็นทุกอย่างของที่นี่ ติดต่อห้องพัก หาห้องว่าง ว่าง 1 ห้องพอดีเลย
กระท่อม บ้านๆมีอยู่ 2 หลัง บนยอดเนิน นู้น แบกกระเป๋าขึ้นไป เอาขึ้นไปเก็บพร้อมกับความหอบและหิว
กระท่อม 1 หลัง เปล1 มุ้ง 1 หมอนใบ ที่นอนผืน ผ้าห่ม อีก3ชั้น ไฟ 1 ดวง ปลั๊กอีก 2 รู คือเป็นแบบ โฮมสเตย์ ชาวบ้านจริงๆ คือทำกันเอง ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรเลย อยู่แบบพื้นๆที่แท้จริง
หมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อว่า หมู่บ้าน แม่แดดน้อย
เอาจริงๆ ผมไม่เคยได้รู้จัก หรือได้ยินมาก่อน กับชื่อ “แม่แดดน้อย“ คงจะมีน้อยคนที่จะเคยได้ยินชื่อนี้ ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาระหว่างทางจาก อ.สะเมิงไป อ.กัลยาณิวัฒนา จังหวัด เชียงใหม่ ซึงยังไม่ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแพร่หลายนัก แต่ที่ๆหมู่บ้านแม่แดดน่้อย เริ่มมีคนรู้จักมากขึ้น มีนักท่องเที่ยวมากขึ้น เพราะ เป็นสถานที่ถ่ายหนังเรื่อง “สุขสันต์วันโสด” “Low Season (2020)” ซึ่งเป็นหนังที่ดีมากกกกกก ประทับใจเรื่องหนึ่งของปี 2020 เลยก็ว่าได้ และใช้ หมู่บ้านนี้ถ่ายทำ เกือบทั้งเรื่อง คนที่ประทับใจเรื่องนี้ จึงอยากจะตามรอย มาเก็บเกี่ยวความประทับใจนี้ด้วย
ม่อนแดดน้อยโฮมสเตย์วิวงาม ก็ยังเป็นที่พักๆ สำหรับ เหล่านักแสดงและทีมงาน ของหนังเรื่อง สุขสันต์วันโสด ในระหว่างถ่ายทำอีกด้วย โดยบ้านพักที่นี่ มีทั้งหมด 2 หลัง 3 ห้องนอน และ อีก 2 กระท่อม ดูแลแบบเป็นกันเองมากๆดุจพี่น้องกันเลยก็ว่าได้
มีมุมให้เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ พักผ่อน กาย สบายใจ อย่างมาก มีมุมชิงช้าสื่อรัก แต่ตอนนี้หญ้าขึ้นเต็มเลย
หมอกลงจางๆบนยอดเขา แทบจะไม่มีแดดเลยทั้งวัน สมกัลชื่อหมู่บ้านจริงๆเลย หมู่บ้านแม่แดดน้อย
ฟ้าเปิดมามา เลยถ่ายมุมจากห้องพักอีกสักมุมหนึ่ง เป็นยอดเขา สลับเรียงราย เขียวขจี อุดมสมบูรณ์มากๆ
กระท่อม คู่กันอีกหลังหนึ่ง ใครอยากจะกางเต้นท์นอนก็ได้นะ
ที่นี่จะเป็นห้องน้ำรวมนะ แบบบ้านๆ นั่งยองๆ และไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นนะ!!!
เก็บของเสร็จเรียบร้อย ด้วยความหิว ลงไป หาพี่ชิ สั่งข้าวกิน และ ถามว่าจะเราทำอะไรดีหรือไปไหนได้มั่งในแถวนี้ พี่ชิ ก็ให้น้องฟลุ๊ค ดูแลเราอย่างดี น้องฟลุ๊ค นี่ เป็นหนุ่ม ในเมือง ดัน มาหลงรัก กับธรรมชาติ และผู้สาว เลยอยู่เป็น ผู้ช่วยพี่ชิ ที่นี่สะเลย
ได้ มอไซต์ มา1คัน ขับตามน้องฟลุ๊ค ไป ที่แปลงนาของพี่ชิ ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ2กิโลแม้วได้
ระหว่างทางขับไป ถือว่าเป็นหมู่บ้านที่สงบมากๆ มีถนนผ่านกลางหมู่บ้าน จะมีรถผ่านก็ นานๆที แล้ว อากาศที่นี่ คือ สบายสุดๆอะ เย็นๆ เป็นหมู่บ้านที่อยู่บนภูเขา ส่วนใหญ่เป็นคนไทย และชาวปกากะญอ มีภาษาพื้นเมืองกัน
ถึงทุ่นนาพี่ชิ เขียวขจีทั้งทุ่ง ก็เป็นหนึ่ง ในโลเคชั่นที่ ถ่าย หนัง เรื่อง สุขสันต์วันโสด Low Season เดินเล่นทุ่งนาถ่ายรูป และไปนั่งพักกระท่อม ริมนา
อากาศดีๆ กลางทุ่งนาเขียวๆ เดินเล่น ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ แบบไม่ต้องคิดอะไร สูดอากาศบริสุทธื์ สดชื่นนน
#lotustheadventure
กระท่อมกลางทุ่งนาตรงนู้น ก็ไปเป็นของพี่ชิเจ้าของโฮมสเตย์ด้วย ที่ๆจะไปนั่งเล่นต่อไป
ทุ่งนาเขียวๆในฤดูฝน ถ้ามาในฤดูหนาวช่วงต้นปี ก็จะกลายเป็นสีทองเป็นรวงข้าว แต่ละฤดูก็จะแตกต่างกันๆ อยากเจอสีไหนก็มาในฤดูนั้นเน้ออ
ถือว่าเป็นช่วงเวลา Slowlife แบบ ขั้นสุดละ ไม่ต้องคิดไรให้ปวดสมอง นั่งปล่อยเวลาไป ดูดดื่มกับธรรมชาติ ที่โคตรจะบริสุทธิ์แห่งนี้
นั่งคุยกับน้องฟลุ๊ค ไปเรื่อยย น้องเขาคือ เป็นคนเฮฮากันเองมากกเข้าได้กับทุกคนจริงๆ
นั่งเพลินๆชมทุ่งนา บรรยากาศ คุยจนเพลิน ก่อนฟ้าจะมืด ก็ขับมอไซต์กลับไปที่พัก เตรียมอาหารเย็นดีกว่า
กลับมาถึงโฮมสเตย์ ระหว่างรอเวลาอาหารเย็นก็เดินไปดูชาวบ้านเขามุงทำไรกัน เจอหมูดำ4ตัว ร้องลั่นบ้านที่ กำลังโดนเชือดไข่!!!! ซึ่งมันคือการ “ทำหมันสดหมู” นั้นเอง อื้อหือออ วิถีชาวบ้านสุดๆ
เรียบร้อย มาเป็นหมู พร้อมขึ้นเตาๆๆ 555 …. หยอกๆ อันนี้เป็นหมูกะทะ ที่มีวิวที่สวยที่สุดที่เคยกินมาละ แต่เรามาคนเดียวทำไงหละ กินเหงาๆคนเดียวไม่ใช่ละ เสน่ห์ของที่นี่ คือ มิตรภาพ ของนักเดินทางนี่แหละ ต่างคน ต่างที่มา ต่างมาทำความรู้จักกัน อยู่ดีๆก็มีรู้จักกันได้ ชวนกันมาร่วมวงตั้งเตาหมูกะทะ และจิบเบียร์ไปด้วยกัน
เตาหมูกะทะ เตานี้เรียกได้โดนใจสุดๆ
เริ่มตั้งมาตั้งแต่5โมงเย็น และสิ้นสุดเวลาเกือบเที่ยงคืน ถือว่าเป็นการกินหมูกะทะที่นานที่สุดเลยก็ว่าได้ สมาชิกที่มาพัก ที่ ม่อนแดดน้อยโฮมสเตย์ จำนวน 4 คน รวมผมด้วย และ ลาก น้องฟลุ๊ค พี่ชิ พี่กิต เจ้าถิ่น มาร่วมวงนั่ง ย่างหมู คุยกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เฮฮากันไป
ท่ามกลางอากาศหนาวววๆ สนุกมากๆๆ เฮฮาตลอด พร้อม เหล้าหมักอย่างดี ร้อนไปทั่วทั้งลำไส้ เป๊กเดียวรับรองหายหนาวแน่นอน ฟีลนี้ไม่เคยได้เจอที่ไหนอะบอกเลย
คนที่ไม่เคยรู้จักกัน มารู้จักกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันไป สนุกกันไปด้วยกัน….ฟีลกู้ดมากๆๆ แต่ละคนก็สร้างสีสัน เรื่องเล่า เรื่องราวต่างๆ จนลืมเวลา และลืม โลกโซเชียว ไปเลยอะ เพราะแทบไม่ได้จับมือถือกันเลย
จนหมูกะทะหมด เบียร์หมด ยาดองหมด ก็แยกย้ายกันไปเข้านอนจ้า
ถึงเวลาเข้านอน โอ้โห สึดด กระท่อมเล็ก บนเนินเขา แบบวังเวงสุดๆ แทบไม่อยากจะปิดไฟนอน เสียงแมลง ธรรมชาติ ลมพัด ฝนปรอย ครบเครื่อง
นอนคนเดียวแบบ วังเวงๆ กลัวๆนิดนึง บรรยากาศแบบว่าผีจะมาได้รอบทิศอะ กางมุ้ง ห่มผ้าไป 2 ชั้น อากากศหนาวจัดๆ หลับตานอนหลับไปอย่างรวดเร็ว
ตื่นเช้าา ด้วยอากาศที่มืดครึ้มฝนพร้อมจะเทตลอดเวลา เก็บกระเป๋า อาบน้ำ เตรียมตัวให้พร้อม ที่จะเดินทางต่อ ซึ่งตอนแรกลังเลมาก อยากจะอยู่ต่ออีกสักคืน ประทับใจกับที่แห่งนี้มากๆ
ที่นี่ มีรถ กลับแค่ 2 รอบเท่านั้นนะ คือ 8 โมงเช้า กับ 9 โมงเช้า พลาด2รอบนี้ไป นอนต่ออีกคืนได้เลยจ้าา
#lotustheadventure
ก่อนจะถึงเวลากลับก็ขอเก็บบรรยากาศ แบบนี้ต่ออีกสักพัก อากาศดีๆ วิวๆดีๆ บรรยากาศแบบนี้ หาที่ไหนไม่ได้แล้วจริงๆ
เคลียค่าใช้จ่ายเมื่อคืนกับพี่ชิ
สรุป ค่าที่พัก 350บาท!!!! หมูกะทะ เบียร์ ตกแล้ว รวม 700กว่าบาท ถือว่าถูกมากๆๆกับการมาคนเดียว ซึ่งการมาที่นี้สิ่งที่ได้กลับไป มันมากกว่าที่จ่ายไปมาก ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพดีๆ จากคนที่นี่ และนักเดินทาง ที่มาเจอกัน บรรยากาศที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว อากาศที่บริสุทธิ์ สดชื่น ได้พักผ่อนแบบเต็มที่100% Recharge ร่ายกาย และจิตใจได้ดีสุดๆ
น่าเสียดาย อยากจะอยู่ต่อสักอีกคืน แต่ตังหมดสะแล้วว กลับก็ได้ว้าาา เก็บเรื่องราวดีๆความประทับใจ และถ่ายรูปรวม สมาชิกเตาหมูกะทะเมื่อคืนนี้ และพี่ชิ กับน้องฟลุ๊ก ก่อนกลับสักหน่อย ก่อนโบกมือ ลากันนน
The language of friendship is not words but meaning
Cr. Henry David Thoreau
รถสองแถวมาแล้ววจ้า รีบลงไปรอข้างล่างแล้วก็โบกๆๆ ขึ้นรถ กลับเข้าเมืองเชียงใหม่กัน หมดเวลาแห่งความสุข และการพักผ่อนแล้ว
ความประทับใจยังไม่หมดแค่นั้น ขากลับนั่งรถคราวนี้ บอกเลยว่า สุดยอดมากๆอะ รถสองแถวตะลุย หมอกบนภูเขา ตลอดทาง
เส้นทางคดเขี้ยว ทางลงเขาไปเรื่อยๆ ที่เต็มไปด้วยหมอก แทบจะไม่เห็นทางเลย สวยมากๆอะ ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ชอบๆๆมากๆ
ระหว่างเส้นทาง ผ่านหมู่บ้านมาเรื่อยๆ วิวเปลียนไปเรื่อยๆ สวยงามตลอดทาง แทบไม่มีง่วง ดูนั้นดูนี่ไปเรื่อย
อากาศเย็นๆ นั่งเรื่อยๆก็ปวดฉี่สิค้าบบบบบบ ลุงแกก็คงปวดด้วย แหละ 5555
ใช้เวลากว่า 4 ชม. เช่นเคย ที่นั่งบนรถ กลับมายังตัวเมืองเชียงใหม่ ถือว่า ได้ชมบรรยากาศที่แตกต่างจากขาขึ้นมา เลย เพราะ สภาพอากาศ ต่างกัน ได้เห็นมุมสวยๆอีกเยอะเลย
จบแล้วกับการเดินทาง มายังหมู่บ้านแม่แดดน้อย จังหวัดเชียงใหม่
เป็นการเดินทางที่ถึงแม้จะใช้เวลานานสักหน่อยสำหรับกับการเดินทาง 4 ชม. แต่บอกได้เลยว่ามันคุ้มค่าที่จะไปจริงๆ และไม่เสียดายเวลาหรือรู้สึกหมดแรงเลยแม้แต่น้อย กลับกันไปที่นั้นแล้วรู้สึกมีแรงเพิ่มขึ้น กลับมาสะอีก ด้วยธรรมชาติที่ดี บรรยากาศที่สงบ มิตรภาพดีๆ สภาพแวดล้อมต่างๆ ประสบการณ์ที่ได้รับกลับมา มาสร้างแรงและพลังงานให้เราเป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นทริปที่ดีที่สุดที่ได้ไปในปี 2020 เลยก็ว่าได้
ค่ำคืน อากาศหนาว หมูกะทะ เบียร์ คือเดอะเบสท์